รายงานข่าวนี้ได้สรุปข้อมูลจากการประกาศของบริษัทไมโครซอฟท์เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เกี่ยวกับการค้นพบสถานะใหม่ของสสาร ซึ่งถูกเรียกว่า “โทโพโลยี” (Topological) การค้นพบนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสสาร และมีศักยภาพในการปฏิวัติเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านควอนตัมคอมพิวติ้ง
รายละเอียดการค้นพบ ดังนี้
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัทไมโครซอฟท์ ได้ประกาศผ่านช่องทางทวิตเตอร์ถึงการค้นพบสถานะที่สี่ของสสาร นอกเหนือจากสถานะของแข็ง ของเหลว และก๊าซ ที่เราคุ้นเคยกัน สถานะใหม่นี้ถูกเรียกว่า “โทโพโลยี” ซึ่งไมโครซอฟท์ได้ทำการวิจัยและพัฒนามาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่สมัยรัฐบาลของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช
คุณสมบัติที่โดดเด่นของสสารสถานะโทโพโลยี คือ
สสารในสถานะโทโพโลยีมีคุณสมบัติที่น่าทึ่งและแตกต่างจากสสารในสถานะอื่นๆ อย่างชัดเจน ประกอบด้วย
- การนำไฟฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ มีความสามารถในการนำไฟฟ้าในรูปแบบเฉพาะตัว
- การปรับเปลี่ยนรูปร่างความเป็นจริง สามารถเปลี่ยนแปลงและปรับรูปร่างของตัวเองได้
- การรักษาตัวเอง (Self-Healing) แสดงพฤติกรรมการรักษาตัวเองเมื่อเกิดความเสียหาย
- ความสามารถในการเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ที่จะนำความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เลเยอร์ของความเป็นไปได้ มีลักษณะเสมือนมีชั้นของความเป็นไปได้มากมายซ้อนทับกันอยู่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีกระแสไฟฟ้า (คลื่น) ผ่าน
ผลกระทบต่อควอนตัมคอมพิวติ้ง
การค้นพบสสารสถานะโทโพโลยีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวงการควอนตัมคอมพิวติ้ง เนื่องจากคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของมันสามารถนำมาใช้ในการสร้างหน่วยประมวลผลควอนตัม (คิวบิต) ที่มีความเสถียรและทนทานต่อความผิดพลาดได้ คิวบิตที่สร้างจากวัสดุโทโพโลยี หรือที่เรียกว่า “Topological cubits” จะช่วยแก้ไขปัญหาสำคัญของควอนตัมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ซึ่งมีความเปราะบางและจำเป็นต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำมาก (ใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์ หรือ -273 องศาเซลเซียส)
ไมโครซอฟท์ได้พัฒนาหน่วยประมวลผลคอมพิวเตอร์โดยใช้วัสดุสถานะโทโพโลยี และเรียกตัวนำที่ใช้ในเทคโนโลยีนี้ว่า “Topological Conductor” บริษัทได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ โดยมีชื่อว่า “Marjorana 1” ซึ่งสามารถทำงานได้ในอุณหภูมิห้องปกติ
ศักยภาพและอนาคต
การค้นพบสสารสถานะโทโพโลยีไม่เพียงแต่เป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการปฏิวัติเทคโนโลยีในหลากหลายด้าน เช่น - การประมวลผลควอนตัม การสร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่มีเสถียรภาพและใช้งานได้จริง จะเปิดโอกาสให้เกิดการพัฒนาในด้านการเข้ารหัส การค้นคว้ายาและวัสดุใหม่ การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และอื่นๆ อีกมากมาย
- วัสดุศาสตร์ การเข้าใจและควบคุมคุณสมบัติของสสารสถานะโทโพโลยีอาจนำไปสู่การสร้างวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น วัสดุที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ หรือวัสดุที่มีความสามารถในการนำไฟฟ้าและความร้อนที่ดีขึ้น
- เทคโนโลยีอื่นๆ ศักยภาพของสสารสถานะโทโพโลยีอาจนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เรายังไม่สามารถจินตนาการได้ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ การค้นพบสสารสถานะโทโพโลยีเป็นเหตุการณ์สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของโลกอย่างแท้จริง การที่สสารแสดงคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับสิ่งมีชีวิต เช่น การเปลี่ยนแปลงตัวเอง การซ่อมแซมตัวเอง และการสร้างรูปแบบใหม่ๆ นั้น เป็นสิ่งที่น่าทึ่งและท้าทายความเข้าใจเดิมของเราเกี่ยวกับธรรมชาติของสสาร
นอกจากนี้ ผู้เขียนยังได้กล่าวถึงความเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติและการเล่นแร่แปรธาตุในอดีต ซึ่งวิทยาศาสตร์แผนใหม่มักมองว่าเป็นเรื่องงมงาย อย่างไรก็ตาม การค้นพบสสารสถานะโทโพโลยีอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ความเข้าใจของเราเกี่ยวกับโลกและธรรมชาติยังคงมีข้อจำกัด และอาจมีปรากฏการณ์ต่างๆ ที่รอคอยการค้นพบและอธิบายด้วยกรอบแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ผู้เขียนยังได้กล่าวอ้างถึงประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับ “สสารมีชีวิต” และการใช้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ในการสื่อสาร ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจและอาจต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจถึงความเป็นไปได้ในบริบทของการค้นพบใหม่นี้
สรุป
การค้นพบสสารสถานะโทโพโลยีโดยไมโครซอฟท์ ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การทำความเข้าใจและควบคุมคุณสมบัติของสสารในสถานะใหม่นี้ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายภาคส่วน และเปิดศักราชใหม่แห่งนวัตกรรมที่จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของโลกอย่างลึกซึ้ง
อ้างอิง: ประธานไมโครซอฟท์ – we found a new form of matter. (ไม่ได้ระบุวันที่). สืบค้นจาก https://youtu.be/sd86KQfErnA?si=9k-GXKcpbD9RAfwc
