
ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว องค์กรทั่วโลกต่างเร่งนำ AI มาปรับใช้ในภาคธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน โดย AI ถูกนำมาใช้ในกระบวนการทำงานที่หลากหลาย ตั้งแต่การบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติ ไปจนถึงการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบเรียลไทม์
จากรายงานล่าสุดของ International Monetary Fund (IMF) พบว่า AI อาจมีผลกระทบต่อประมาณ 40% ของตำแหน่งงานทั่วโลก ขณะที่ในประเทศไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า AI จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในภาคบริการ ซึ่งคิดเป็นกว่า 52.4% ของ GDP อุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานซ้ำซากและงานที่ต้องการทักษะต่ำอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ขณะที่องค์กรขนาดใหญ่ยังคงเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
แม้ว่า AI จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรม แต่แรงงานที่ไม่มีทักษะด้านเทคโนโลยีอาจเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัว ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้พนักงานเร่งพัฒนาทักษะที่สามารถทำงานร่วมกับ AI เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ทักษะด้านโปรแกรมมิ่งและวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) ความเข้าใจด้านปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิง ตลอดจนทักษะการทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ ทักษะด้าน Soft Skills เช่น การคิดเชิงวิเคราะห์ ความสามารถในการทำงานร่วมกับ AI และการแก้ปัญหาผ่านนวัตกรรม ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ทั้งนี้ ภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องหามาตรการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น การพัฒนาโครงการฝึกอบรมแรงงานและการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้แรงงานสามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างยั่งยืน