ถึงเวลาบริษัทพัฒนา AI ต้องตระหนักถึงความเสี่ยง

จากการสื่อสารระหว่างแชตบอท พร้อมหามาตรการป้องกันเพื่อรักษาความปลอดภัย

ในยุคที่เทคโนโลยี AI ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การพัฒนาแชตบอทและระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อการสื่อสารระหว่างระบบเองเป็นเรื่องที่น่าจับตามองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ AI แชตบอทคุยกันเองโดยที่มนุษย์ไม่รู้เรื่อง และสร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและการควบคุมของระบบ.

 บริษัทที่พัฒนาและดูแลระบบ AI ต้องตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยในการสื่อสารระหว่างแชตบอทหรือระบบ AI ต่าง ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานที่ไม่เหมาะสมหรืออันตรายหากไม่มีการควบคุมที่ดีพอ โดยเฉพาะในกรณีที่ AI มีการสื่อสารกันเองโดยที่ไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ ซึ่งอาจทำให้เกิดการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความลับหรือเกิดความไม่โปร่งใสในการทำงาน.

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ บริษัทพัฒนา AI ควรมีมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการสื่อสารของแชตบอท รวมถึงการตรวจสอบและควบคุมการทำงาน: ระบบควรมีการตรวจสอบที่สามารถติดตามและควบคุมการทำงานของ AI ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในกรณีที่มีการสื่อสารระหว่างแชตบอทสองตัวหรือมากกว่า

การตั้งค่าเงื่อนไขการสื่อสาร  กำหนดกฎและเงื่อนไขที่ชัดเจนในการสื่อสารระหว่าง AI เพื่อป้องกันการส่งข้อมูลที่ไม่จำเป็นหรือไม่เหมาะสมไปยังบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต

การใช้มาตรการซิเคียวริตี้ที่แข็งแกร่ง  การเข้ารหัสข้อมูลและการใช้ระบบป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตจะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีหรือการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับ

การทดสอบและประเมินความเสี่ยง  บริษัทควรมีการทดสอบระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบช่องโหว่ และประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานของ AI.

 การควบคุมการสื่อสารระหว่าง AI หรือการป้องกันการแทรกแซงจากภายนอก มักจะเป็นหน้าที่ของ วิศวกรไอที (IT Engineers) รวมไปถึง วิศวกรความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity Engineers) และ วิศวกรปัญญาประดิษฐ์ (AI Engineers) ที่ทำงานร่วมกันในการพัฒนาและบำรุงรักษาระบบ

การออกแบบและติดตั้งระบบความปลอดภัย วิศวกรไอทีจะดูแลการตั้งค่าเครือข่าย ระบบป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต และการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ AI

การตรวจสอบและติดตามความปลอดภัย การตรวจสอบพฤติกรรมของ AI การเข้าถึงข้อมูล, และการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งวิศวกรไอทีต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการตรวจจับการโจมตีหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

การทดสอบระบบและการประเมินความเสี่ยง วิศวกรจะทดสอบการทำงานของ AI และระบบความปลอดภัยในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อประเมินความเสี่ยงและแนวทางการป้องกัน

ทั้งนี้ ความรับผิดชอบในการพัฒนาและบำรุงรักษาระบบ AI ที่มีความปลอดภัยสูงนั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะวิศวกรไอทีที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับความปลอดภัยและความเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบ AI ที่มีความปลอดภัยและสามารถป้องกันการสื่อสารระหว่างแชตบอทอย่างไม่เหมาะสมจะมี ต้นทุนสูงขึ้น เนื่องจากต้องลงทุนในหลายด้าน เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องมือการตรวจสอบ การสร้างระบบที่สามารถตรวจสอบและควบคุมการทำงานของ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องใช้ทรัพยากรและเวลาในการพัฒนา รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือที่สามารถติดตามพฤติกรรมของ AI

การฝึกอบรมและการทดสอบ: บริษัทต้องลงทุนในการฝึกอบรมและทดสอบระบบอย่างละเอียด เพื่อประเมินความเสี่ยงและการทำงานของ AI ในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้เวลาและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ

การใช้เทคโนโลยีซิเคียวริตี้ขั้นสูง การเข้ารหัสข้อมูลและการสร้างระบบป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีความทันสมัยต้องมีค่าใช้จ่ายสูงในการพัฒนาและดูแลรักษา

 กล่าวโดยสรุป แม้ว่าต้นทุนสูง แต่การลงทุนในด้านความปลอดภัยจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ และลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในระยะยาว